วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พิธีการ พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ คือขั้นตอนที่สำคัญของพิธีมงคลสมรส(แต่งงาน) เพราะเมื่อหลั่งน้ำพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว นั้นหมายถึงทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วตามธรรมเนียมไทย แต่ปัจจุบันทั้งคู่ต้องมีการจดทะเบียนสมรสกันด้วยจึงจะถือว่าถูกต้องตามธรรมเนียม และถูกต้องตามกฎหมาย ด้วย
การหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ คือการรดน้ำสังฆ์  จะเริ่มจากประธานในพิธี(เฒ่าแก่ หรือ ผู้ที่นับถือ) จะนำคู่บ่าว-สาว กราบพระพุทธ แล้วจูงคู่ บ่าว-สาว ขึ้นนั่งที่ชุดตั่งหลั่งน้ำพระพุทธมนต์  เจ้าสาวนั่งทางซ้าย เจ้าบ่าวนั่งทางขวา จากนั้นประธานในพิธี(เฒ่าแก่ หรือ ผู้ที่นับถือ) จะสวมมงคลแฝดให้แก่คู่ บ่าว-สาว และทำการเจิมหน้าผาก แล้วหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ลงที่มือ บ่าว-สาว พร้อมกล่าวคำอวยพรแก่คู่บ่าว-สาว จากนั้น บิดา มารดา  เจ้าบ่าว บิดา มารดา เจ้าสาว และญาติของ บ่าว-สาว จะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งกล่าวคำอวยพรให้คู่ บ่าว-สาว ตามลำดับ
*พิธีการ*
เมื่อได้ฤกษ์ เจ้าภาพหรือผู้แทนนำคู่สมรสเข้าห้องพิธีฯ พร้อมด้วยเพื่อนของคู่สมรสเชิญประธานในพิธีฯ เข้าประกอบพิธีฯ โดยคู่สมรสทำความเคารพประธานฯ ก่อนเป็นการเบื้องต้น
ประธานฯ รับเทียนชนวน จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยในขณะนี้ คู่สมรสยืนประนมมือระลึกถึง คุณพระรัตนตรัยและอธิฐานจิต ที่จะอยู่ครองคู่กันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตลอดไป
เมื่อประธานฯ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย และกราบพระเรียบร้อยแล้ว คู่สมรสกราบ พระรัตนตรัยแล้วเข้าไปนั่งยังตั่งสำหรับรอรดน้ำสังข์
ประธานฯ รับพวงมาลัย 2 ชาย คล้องให้แก่คู่สมรสตามลำดับ
คู่สมรสวางแขนทั้ง 2 ข้างของแต่ละคนบนหมอนรอง ประนมมือยื่นออกไปตรงขันรองน้ำ
ประธานฯ รับมงคลแฝดสวมศีรษะคู่สมรส รับเครื่องเจิมและเจิมหน้าผากคู่สมรส แล้วรับสังข์หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ให้สืบไป
เมื่อประธานฯ หลั่งน้ำพระพุทธมนต์แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯเชิญแขกเข้ามาหลั่งน้ำสังข์ติดต่อกันไป
เสร็จการหลั่งน้ำสังข์แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯ เชิญประธานฯ หรือแขกผู้มีอาวุโสถอดมงคลแฝด หรือเจ้าภาพจะถอดเองก็ได้ แล้วมอบมงคลแฝดให้แก่คู่สมรส
คู่สมรสลุกขึ้นจากตั่งที่นั่งแล้วเข้าไปกราบพระรัตนตรัยและทำความเคารพท่านผู้ถอดมงคลแฝด
เสร็จพิธีฯ แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯ นำคู่สมรสออกไปกราบประธานฯ และทำความเคารพแขก ผู้มาอวยพร เพื่อแสดงความขอบคุณที่ท่านได้กรุณาประกอบพิธีและอำนวยพร
เสร็จพิธี


สิ่งที่ต้องเตรียม
โต๊ะสำหรับวางหมอนรองมือ พร้อมก้าอี้สำหรับให้บ่าวสาวนั่งรับน้ำสังข์
โต๊ะขนาดเตี้ยกว่าวางด้านหน้าสำหรับวางพานรองน้ำสังข์
มงคลแฝด กะความยาวระหว่างมงคลประมาณ 2 ศอก
คนส่งและรับสังข์ 2 คน
เพื่อนสนิทของบ่าวสาว สองคู่
กระดาษเช็ดหน้า มอบให้เพื่อนบ่าวสาว ถือไว้คนละผืน
ของชำร่วย
พานสำหรับวางมงคล
จัดโต๊ะให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือให้เจ้าบ่าวนั่ง ทางด้านขวาของเจ้าสาว 
พระสงฆ์ผู้เป็นประธานเจิมหน้าผากให้เจ้าบ่าว 3 จุด จากนั้นจับมือฝ่ายชายเจิม 3 จุดให้เจ้าสาว สวมมงคลแฝดให้บ่าว-สาว ให้เพื่อนบ่าว-สาว ยืนเป็นกำลังใจด้านหลังโดยหันหน้าไปทิศเดียวกัน
การรดน้ำสังข์ต้องเริ่มจากขวาไปซ้าย เพราะฉะนั้นต้องเริ่มรดน้ำสังข์ให้เจ้าบ่าวก่อน
มีคนคอยตักน้ำพระพุทธมนต์เติมในสังข์ส่งให้คุณพ่อคุณแม่ของทั้งคู่ผลัดกันรดน้ำสังข์ ขณะที่จรดปากสังข์ ที่มือลูกจะให้พรหรือฝากฝังลูกของตนให้อีกฝ่ายช่วยดูแล ตอนนี้เองไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักจะร้องไห้ด้วยความปลื้มปีติในความผูกผันที่ต่างมีให้กัน เพื่อนบ่าวสาว ที่ยืนอยู่ด้านหลังมีหน้าที่ส่งผ้าหรือกระดาษให้ซับน้ำตา
ด้ายมงคลถือว่าเป็นของสูง เป็นสิริมงคล ให้เก็บไว้ถาวรในที่สูง เช่นบนหิ้งพระ หากจะนำไปใช้ในการต่อไป ก็ใช้ในการที่เป็นมงคลเท่านั้น
เมื่อจรดน้ำสังข์เสร็จ ขั้นตอนต่อไปเป็นการปลดมงคลออกจากศรีษะของบ่าวสาว ให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเป็นคนปลดโดยยกมงคลขึ้นพร้อมกันวางบนพานที่เตรียมไว้ จากนั้นจับมือคู่บ่าวสาว เป็นสัญญาณให้ทั้งคู่ลุกขึ้น แต่มีเคล็ดลับบอกมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า ถ้าฝ่ายหญิงลุกก่อนจะได้เป็นใหญ่ในบ้า
เมื่อรดเสร็จส่งสังข์คืนให้ผู้ยืนรอรับพร้อมรับของชำร่วยเล็กๆน้อยๆเวียนไปอย่างนี้จนครบทุกคนส่วนเด็กๆหรือผู้มีอายุน้อยกว่าคู่แต่งงานไม่ควรรดน้ำสังข์เพราะเวลาที่ให้พร จะต้องเป็นผู้ที่อาวุโสกว่าเท่านั้น

การเลือกสถานที่จัดเลี้ยง เตรียมความพร้อมในวันแต่งงาน

วิธีเลือกสถานที่จัดเลี้ยง การ จะเลือกสถานที่จัดเลี้ยงนั้น เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากดูฤกษ์ดูยามกันอย...